การตลาดในยุคต่อไปองค์ประกอบของเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เรากำลังพูดถึง Internet of Things หุ่นยนต์ AR บล็อกเชน Big Data ฯลฯ ต่อไปนี้จะเป็นหัวใจพื้นฐานของการทำตลาดในยุคต่อไป
Big Data
หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว SMEs เองก็สามารถใช้เรื่องของ Big Data เข้ามาจัดการบริหารจัดการได้ทั้งแง่ของข้อมูล เวลา หรือการบริการ เช่น ในธุรกิจอาหารตามสั่งเราสามารถเก็บข้อมูลว่าเมนูใดที่เป็นที่นิยมและสามารถเตรียมปรุงไว้ได้ก่อน ซึ่งจะทำให้การบริการเร็วขึ้น นั่นคือตัวอย่างในการเก็บ data ความสำคัญคือเราเอา data ที่มีอยู่ในธุรกิจมาใช้แล้วหรือยังมากกว่า
Sensor, Connectivity, People & Processes
ต่อไปการตลาดจะมีองค์ประกอบด้านเทคโนโลยีด้านอื่นมาเกี่ยวข้องมากมาย อุปกรณ์ต่าง ๆ รอบตัวเริ่มเก็บข้อมูลได้ดีมากขึ้น Sensor ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับ Motion อุณหภูมิ หรือทุก ๆ อย่างที่เป็นเรื่องของ Big Data เราสามารถเอามาวิเคราะห์ในการทำการตลาดได้ ฉะนั้นการตลาดยุคใหม่คือการเอา data + sensor มาวิเคราะห์ รวมถึง Connectivity ที่จะมาเชื่อมโยงในทุกระดับ จะทำให้วิธีการคิด การ execution หรือ strategy เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึง People & Process ในการทำ การพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป ถ้าคุณเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้การตลาดก็จะเปลี่ยนไปด้วย
ข้อมูลจาก Wearable กำลังมีมากขึ้น เดี๋ยวนี้คนนิยมซื้อพวก smart watch หรือพวก Xiaomi มากขึ้น data ที่ได้จากอุปกรณ์เหล่านี้มีมากมายมหาศาล อุปกรณ์หรือผู้ผลิตเหล่านี้เปิด API ให้ ซึ่งสามารถดึงข้อมูลของแต่ละคนได้ สามารถทำแคมเปญการตลาด วิเคราะห์และนำเสนอสำหรับคนใดหนึ่งคนได้ทันที data จำนวนมหาศาลมีความหลากหลายในทุกรูปแบบ ฉะนั้นการตลาดจะไม่ได้มีแค่ Google หรือ Facebook แต่ตอนนี้ก้าวไปไกลถึงเรื่องของ Personalized หรือหนึ่งต่อหนึ่งแล้ว
IoT
IoT หรือ Internet of Things เรากำลังเข้าสู่ยุคที่เรียกว่าอุปกรณ์กับอุปกรณ์สามารถคุยกันหรือสื่อสารกันได้เองแล้ว ยิ่งปัจจุบันที่มีการเปิดให้บริการที่เรียกว่า NB-IoT ที่ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเราฉลาดขึ้น เพียงแค่ติดตั้งบอร์ดตัวนี้เข้ากับอุปกรณ์ เป็นการทำงานแบบ M2M หรือ Machine to Machine อุปกรณ์ที่เราติดตั้งเข้าไปจะสามารถพูดคุยกับอุปกรณ์ตัวอื่นได้ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีการใช้มากกันขึ้น ประตูบ้าน หลอดไฟ หรือแม้แต่เครื่องปรับอากาศในบ้านของคุณจะพร้อมทำงานทันทีที่คุณใกล้ถึงเขตบ้าน ต่อไป Operator แต่ละเจ้าจะมุ่งไปหารายได้กลุ่มใหม่จากอุปกรณ์ฉลาด ๆ เหล่านี้ ตอนนี้จะเห็นว่าตลาดของ M2M มีขนาดใหญ่โตมาก อุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องการ connectivity มากขึ้น หากมีการเอาข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ในเชิงการตลาดจะทำให้การตลาดของคุณ Beyond ไปกว่าที่เคยเป็น
Face Recognition
เทคโนโลยีที่มาแรงจริง ๆ การตลาดที่จะเป็นแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น เทคโนโลยีนี้จะสามารถตรวจจับใบหน้าและรู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วจัดการเปลี่ยนป้ายโฆษณาเพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าที่เข้ามาได้ทันที เช่น ผู้ชายก็เปลี่ยนเป็นโฆษณาขายสูท ผู้หญิงขายก็เป็นโฆษณาเครื่องสำอาง ดังนั้นโฆษณาจะเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ในปัจจุบันการทำ API แบบนี้ทำได้เองอย่าง Google ก็มีบริการที่รียกว่า Cloud Vision API หรือ Microsoft ก็มี Microsoft Azure ก็มี Face API ที่สามารถตรวจสอบว่าเป็นคนคนเดียวกันหรือไม่ ขณะนั้นมีอารมณ์อย่างไร ตอนนี้เทคโนโลยีเรื่องใบหน้ามีพร้อมและราคาถูก