ทำไม Marketing ต้องทำงานควบคู่กับ HR?

ทำไม Marketing ต้องทำงานควบคู่กับ HR?

Highlight: ถ้าคิดว่าฝ่ายการตลาดกับฝ่ายบุคคลไม่เกี่ยวข้องกัน คุณกำลังคิดผิด รีบปรับความคิดใหม่ด่วน

 

ปองกมล ศรีสืบ

Project Director: MeaningMe Co.,Ltd

 

จริงๆ แล้ว คำถามนี้ น่าจะถูกตั้งขึ้นบนพื้นฐานว่า Marketing ต้องทำงานควบคู่กับ HR ด้วยหรือ? มากกว่า เพราะหากมองเผินๆ แล้วการทำงานของฝ่ายการตลาดโดยรวม มักจะไม่มีส่วนต้องเกี่ยวข้องกับ HR จะมีก็เมื่อฝ่ายการตลาดต้องการพนักงานเพิ่มเติม จึงต้องให้ทาง HR หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคล recruit คนทำงานให้ นั่นเป็นเพียงความเชื่อมโยงเดียวที่มักจะเกิดขึ้นในการทำงาน

 

แต่เมื่อมองภาพรวมแบบ Zoom out แล้ว เป้าหมายปลายทางซึ่งเป็น Mission ขององค์กร ล้วนต้องใช้ความร่วมมือของทุกฝ่ายเพื่อเดินไปให้ถึงจุดหมาย ฝ่าย HR ก็ต้องช่วยเรื่องการหาคนและการสร้างคน ในขณะที่ฝ่ายการตลาดก็ต้องหากลยุทธ์ทางการตลาดและทำงานเพื่อส่งเสริมการขาย ควบคู่ไปกับการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร

 

ถามว่าความเชื่อมโยงของฝ่ายการตลาดและทรัพยากรบุคคลอยู่ตรงไหน? เมื่อไรที่ Mission ขององค์กร ตีคู่ขนาน หรือมีองค์ประกอบที่มีเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์​ (Brand Image) และมีส่วนเชื่อมโยง กับ Brand Positioning แล้ว เมื่อนั้น ความเชื่อมโยงของฝ่ายการตลาดและฝ่าย HR จะเกิดขึ้นทันที เพราะว่าพนักงานทุกคน ล้วนแล้วแต่เป็น Brand Ambassador โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว จึงเหมือนกับเวลาที่นักเรียนตีกัน ชุดยูนิฟอร์มมันฟ้องไปถึงสถาบัน เมื่อเป็นข่าว คนก็จะโทษสถาบันมากกว่าโทษนักศึกษาเป็นรายตัวนั่นแหละ

 

เปรียบเทียบง่ายๆ ว่า งานของฝ่ายการตลาดเป็นเรื่อง “หน้าบ้าน” มีหน้าที่ในการกำหนด Brand Image, Brand personality และสื่อสารให้โลกรู้ว่า Brand DNA เป็นอย่างไร ในขณะที่งานของฝ่าย HR เป็นเรื่อง “หลังบ้าน” ในการหาคนและสร้างคน เพื่อให้ได้คาแรคเตอร์​ของพนักงานซึ่งเป็น Brand Ambassador ได้ตรงกับภาพที่ “หน้าบ้าน” สร้างไว้

 

Key Success ของการสร้างแบรนด์อย่างหนึ่งก็คือ Touch Point ทุกจุดที่แบรนด์สัมผัสกับผู้บริโภค ทุกอย่างที่ออกไปสัมผัสกับผู้บริโภค ต้องตรงกับภาพที่ฝ่ายการตลาดสร้างไว้ เป็นเรื่องของการบริหารความคาดหวังในรูปแบบหนึ่ง เพราะถ้าหากภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นแบรนด์พรีเมียม แต่มีบุคลิกเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย การส่งพนักงานหยิ่งๆ ไปเจอลูกค้า ก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายของแบรนด์

 

ความสำเร็จในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็คือ Brand Reputation = Brand Image หรือแปลว่า ภาพที่โลกรับรู้  = ภาพที่แบรนด์สร้างขึ้นและสื่อสารออกไปนั่นเอง ที่มาของความสำเร็จนี้จึงอยู่ที่ บุคลิกและวิธีคิดของพนักงาน = บุคลิกของแบรนด์ นั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีการที่ง่ายที่สุดในการทำให้ภาพออกมาเท่ากัน นั่นก็คือ การกำหนด Core Values ขององค์กรในเบื้องต้น  ควรเป็นการทำงานร่วมกันทั้งผู้บริหาร, ฝ่าย HR และฝ่าย Marketing ตั้งแต่ต้น จะได้ไม่ต้องมีใครมานั่งแก้ที่ปลายทาง

 

เป็นการดีแน่ๆ ถ้าหากว่าบุคลิกพนักงาน = บุคลิกองค์กร​(หรือแบรนด์) แต่ว่าไม่เป็นไรถ้าหากว่าบุคลิกของพนักงานจะดีกว่าบุคลิกของแบรนด์ที่สื่อออกไป เพราะอย่างน้อยจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึก Beyond กับสิ่งที่ได้รับมากกว่าความคาดหวัง

 

บทสรุปไม่มี มีแต่อยากเชียร์ให้เกิดภาพการทำงานร่วมกันระหว่างคนทำงาน “หน้าบ้าน” กับคนทำงาน “หลังบ้าน” เท่านั้นเอง