สวัสดิการที่บริษัทควรให้แก่พนักงานหากยังไม่สามารถขึ้นเงินเดือนได้

สวัสดิการที่บริษัทควรให้แก่พนักงานหากยังไม่สามารถขึ้นเงินเดือนได้

“เพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยกันทำงานอย่างหนักตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทุกคนจะได้วันหยุดพิเศษเพิ่มคนละ 2 วัน”

ผู้จัดการแผนกแจ้งให้คนในทีมทราบพร้อม ๆ กันหลังจากที่เพิ่งประกาศไปว่าโปรเจกต์ใหญ่ที่ทุกคนช่วยกันทำมาตลอดหนึ่งเดือนนั้นประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดจากลูกค้า

เมื่อพนักงานทำงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพ สร้างผลงานที่ดีให้กับองค์กร แต่ละองค์กรก็จะมีวิธีการตอบแทนพนักงานเหล่านั้นที่แตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะออกมาในรูปแบบของการให้โบนัสปลายปีหรือขึ้นเงินเดือน แต่หากองค์กรของคุณนั้นยังไม่สามารถขึ้นเงินเดือนหรือให้โบนัสกับพนักงานได้ ก็อาจลองเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบของการให้เป็นสวัสดิการอื่น ๆ แทน

JobThai.com/REACH ขอแนะนำสวัสดิการน่าสนใจ เพื่อใช้เป็นการตอบแทนความทุ่มเทในการทำงานให้กับพนักงานของคุณแม้คุณจะไม่ได้ขึ้นเงินเดือนให้กับพวกเขา

 

 

  • สวัสดิการแบบไม่ใช้เงิน: ให้สวัสดิการที่เน้นไปที่เรื่องของวันและเวลาทำงาน เช่น มีเวลาการเข้าออกงานที่ยืดหยุ่น สามารถเก็บชั่วโมงการทำงานได้ รวมไปถึงการเพิ่มวันลาให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นวันลากิจ ลาพักร้อน หรือวันหยุดพิเศษต่าง ๆ
  • สวัสดิการแบบใช้เงิน: เป็นสวัสดิการที่องค์กรอาจจะต้องใช้งบประมาณส่วนหนึ่งสำหรับสวัสดิการเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเงินช่วยเหลือต่าง ๆ เบี้ยเลี้ยงในการทำงาน หรือเบี้ยเลี้ยงที่เกี่ยวกับสุขภาพ ไปจนถึงสวัสดิการที่ต้องใช้เงินเป็นก้อนใหญ่อย่างการทำประกันชีวิตให้กับพนักงาน

 

 

แบบไม่ใช้เงิน

ตารางการทำงานที่ยืดหยุ่น

การเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเลือกเวลาการมาทำงานที่เหมาะสมกับตนเองได้เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง ที่จะช่วยเหลือพนักงานที่อาจจะพักอยู่ไกลจากที่ทำงาน หรือมีภาระต้องส่งลูกไปโรงเรียนก่อนมาทำงาน ให้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังกับการมาให้ทันทำงานในตอนเช้า

บริษัทอาจมีรอบเข้างานตอนเช้าให้เลือก เช่น เข้างาน 8 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น รอบต่อไปเข้างาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 6 โมงเย็น มีระบบการทำงานแบบเก็บชั่วโมงให้ครบแทนการเข้างานตามเวลาปกติ หรือแม้แต่การให้ทำงานได้จากที่บ้านก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง แต่ก็ต้องดูด้วยว่าการจัดการเวลางานใหม่นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานโดยรวมของบริษัท และความยืดหยุ่นนี้อาจใช้ได้กับพนักงานบางตำแหน่งหรือบางประเภทของงานเท่านั้น

 

เพิ่มวันลากิจ

เราไม่ได้แนะนำให้เพิ่มวันลากิจอย่างไม่มีเหตุผลจนส่งผลกระทบต่อการทำงานโดยรวมขององค์กร หากในปีนี้คุณไม่สามารถให้โบนัสหรือขึ้นเงินเดือนให้พนักงานได้ การเพิ่มโควตาวันลากิจแม้เพียงไม่กี่วันจะทำให้พวกเขามีเวลามากขึ้น และมีกำลังใจในการทำงาน เพราะตลอดเวลาทั้งปีคนเราอาจมีกิจธุระสำคัญที่คาดไม่ถึงมากกว่าที่คิด เช่น ญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัดป่วยหรือเสียชีวิต ทำให้ต้องใช้วันลากิจเพื่อการเดินทาง

นอกจากนี้คุณยังสามารถพิจารณาวันหยุดพิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากวันหยุดที่เป็นวันสำคัญ หรือวันพักร้อนแบบหยุดยาวที่เป็นสิทธิของพนักงานอยู่แล้ว การเพิ่มวันหยุดพิเศษให้พนักงานจะแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของบริษัทที่มีต่อพนักงานที่ทำงานอย่างเต็มที่มาตลอดทั้งปี

 

เพิ่มวันลาพักร้อน

เพิ่มวันลาพักร้อนให้พนักงานได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เพราะวันหยุดดังกล่าวพนักงานแต่ละคนจะวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวหลายวันติดต่อกัน ซึ่งใคร ๆ ก็อยากใช้เวลาช่วงนี้ให้เต็มที่ทั้งนั้น

นอกจากนี้คุณยังอาจให้พวกเขาได้หยุดพิเศษ ในโอกาสพิเศษของพวกเขา เช่น วันเกิด วันครบรอบการทำงานครบ 1 ปี หรือให้ทำงานแค่ครึ่งวันในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนที่มีความหมายสำคัญ เช่น เดือนที่เป็นวันครบรอบการก่อตั้งบริษัท หรือให้เลือกวันหยุดได้ในเดือนที่ทีมงานทำผลงานได้ตามเป้าหมาย

 

แบบใช้เงิน

เพิ่มเงินอุดหนุนรายจ่ายที่จำเป็น

การช่วยเหลือพนักงานด้วยการเพิ่มเงินค่าสวัสดิการเป็นครั้งคราว หรือปรับเพิ่มเงินเบี้ยเลี้ยงเล็ก ๆ น้อย ๆ ประเภทอื่น จะทำให้คุณเพิ่มงบประมาณรายจ่ายโดยรวมของบริษัทในระยะยาวมากเท่ากับการปรับขึ้นเงินเดือน

มองหาช่องทางการทดแทนในเรื่องที่พนักงานต้องการ เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเช่าที่พัก หรือ ค่าเดินทาง (ในกรณีที่ต้องทำงานห่างไกลภูมิลำเนา) ทำให้แน่ใจว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่คุณเสียไปจะเป็นประโยชน์ต่อพนักงานของคุณจริง ๆ

 

ทำประกันชีวิตให้พนักงาน

หากบริษัททำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพให้กับคนทำงานรุ่นใหม่ พวกเขาอาจจะไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร แต่เรื่องความมั่นคงของชีวิตสำหรับพนักงานกลุ่มที่เริ่มจะมีอายุ และมีครอบครัวต้องดูแลเป็นเรื่องที่พนักงานกลุ่มนี้ให้ความสำคัญ เพราะหากเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นครอบครัวของพนักงานเหล่านั้นจะได้รับผลประโยชน์ความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันชีวิตหลักซึ่งออกให้กับบริษัทของคุณ

ลองพิจารณาตามความเหมาะสมว่าคุณจะตอบแทนพนักงานของคุณด้วยประกันประเภทไหน เช่น ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันทุพพลภาพ หรือ ประกันสุขภาพ โดยเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละบริษัทประกันว่าให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งในเวลาทำงานและนอกเวลาทำงานหรือไม่

 

เพิ่มเบี้ยเลี้ยงด้านสุขภาพ

ถ้าคุณคิดว่าประกันสุขภาพรายปีนั้นมีราคาสูงเกินไป ลองพิจารณาสวัสดิการอื่นที่เกี่ยวกับสุขภาพเช่นกันแต่มีราคาต่ำกว่า เช่น การเพิ่มจำนวนการเบิกค่าทำฟันต่อปีให้มากขึ้น หรือจัดให้มีการตรวจวัดสายตา และตัดแว่นฟรีในที่ทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานที่มีปัญหาสุขภาพในด้านนี้