การฝึกฝนที่มากกว่า 10,000 ชั่วโมงนั่นเอาไว้สำหรับการพัฒนาทักษะให้โดดเด่นจนหาคู่แข่งได้ยากเฉย ๆ ซึ่งใน 13 เดือนที่ผ่านมา ผมได้พิสูจน์แล้วว่าคนเราสามารถเรียนทักษะใหม่ ๆ ได้ในเวลาเพียง 15 – 20 ชั่วโมงเท่านั้น แน่นอนว่าเริ่มจากศูนย์ครับ ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจมาจาก TEDx Talk ที่พูดโดย Josh Kaufman (The First 20 Hours — How to Learn Anything)
บิลเกตส์, เจฟ เบซอส, อีลอน มัสก์, วอร์เรน บัฟเฟตต์, บารัค โอบามา, โอปราห์ วินฟรีย์ ตลอดจนนักแสดงชื่อดังจำนวนมากเลือกที่จะใช้เวลาไปกับการฝึกทักษะใหม่ ๆ ซึ่งทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จดังเช่นในปัจจุบัน ไม่ใช่เพราะพวกเขาเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ แต่พวกเขาทุ่มเทให้กับการเรียนรู้และหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ต่างหากครับ
ผมพิจารณาหัวข้อที่ผมอยากจะเรียนอย่างถี่ถ้วน เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่ามันจะใช้ได้จริงและมีประโยชน์ไปตราบนานเท่านาน เอาจริง ๆ หลายทักษะที่ผมหยิบมาฝึกมันก็มีประโยชน์มาเป็นพัน ๆ ปีแล้วแหละ ซึ่งการเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ ขอแค่สละเวลาซัก 8 ชั่วโมงก็เรียกได้ว่า “ทำเป็น” แล้วครับ ซึ่ง 8 ชั่วโมงเนี่ย เท่ากับวันทำงานวันนึงเอง
อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนเป็นเวลานาน ๆ ในเรื่องเดิม ๆ ไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้ผลลัทธ์ที่ดี เพราะสมองของพวกเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำอะไรนาน ๆ แบบนั้นครับ
ทักษะแรกที่ผมจะเสนอต่อไปนี้ เป็นพื้นฐานแห่งทักษะทั้งหมดทั้งมวลที่คุณจะได้เรียนรู้ตลอดช่วงชีวิตครับ ถ้าคุณอยากจะทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไปตลอดกาลล่ะก็ เรามาเริ่มกันเลยครับ
หมายเหตุ: เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผมแนะนำให้เริ่มที่ทักษะ “การเรียนรู้” ก่อนอันอื่น หลังจากนั้นอยากเรียนรู้ทักษะไหนก็เลือกตามใจชอบได้เลยครับ
1. วิจัยชี้! “เรียนบ่อย” จำได้ดีกว่า “เรียนนาน”
เมื่อผมเริ่มพัฒนาทักษะเหล่านี้ พูดตรง ๆ ว่าผมค่อนข้างเคว้งคว้าง ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี จนในที่สุดผมก็พบว่า ก้าวแรกของการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการเข้าใจสมองครับ เราต้องรู้ก่อนว่าสมองของเรามีกลไกในการจดจำสิ่งใหม่ ๆ อย่างไร ถ้าเราผ่านก้าวแรกนี้ได้แล้ว ก้าวต่อไปในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ
ภายในเดือนเดียว ผมเรียนรู้วิธีเขียนหนังสือด้วยภาษาสเปน แต่งเพลงให้เป๊ะปังอลังเวอร์ (จากที่เคยปราศจากความรู้ในด้านดนตรี) เขียนโค้ดหลังบ้านด้วยภาษา Go ตลอดจนเต้นซัลซ่า (แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ ผมเต้นอะไรไม่เป็นเลยซักกะอย่าง) ฟังดูเวอร์ใช่ป่าว? เชื่อผมเถอะ เดี๋ยวคุณจะไม่รู้สึกแบบนั้นแน่ ๆ ครับ สาเหตุที่ผมทำเรื่องพวกนี้ได้ เพราะผมเรียนรู้วิธี “เรียน” ที่ถูกต้องครับ เรามาลองดูวิธีของผมกัน
ผมพัฒนาวิธีเรียนรู้อย่างไร?
เอาจริง ๆ เรื่องนี้เขียนหนังสือได้เป็นเล่มเลย แต่ถ้าจะให้บทความไม่ยาวเกินไปล่ะก็ ผมแนะนำให้คุณลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
– วางแผนการฝึก: ทำตารางการฝึก ไม่เน้นนาน แต่เน้นถี่และสม่ำเสมอครับ ได้ฝึกทุกวันยิ่งดี
– หาหัวใจหลัก: ก่อนจะเริ่มเรียนรู้อะไรให้ตัดประเด็นรองออก พอเหลือแค่ใจความสำคัญก็จะง่ายขึ้นครับ
– ลงมือทำซ้ำ ๆ: เรียนแล้วต้องใช้ถึงจะจำได้ครับ ถ้าไม่ใช้รับรองว่าลืม
– หาที่ปรึกษา: การที่มีผู้รู้คอยแนะนำ จะทำให้เราเห็นจุดบอดได้เร็วและแก้ไขได้ง่ายครับ ถ้าหาไม่ได้ก็ลองพิจารณาจุดแข็งและจุดด้อยของวิธีที่คุณฝึกดู
– วัดผลความก้าวหน้า: นอกจากวัดผลแล้ว อย่าลืมให้รางวัลตนเองและคอยปรับปรุงทักษะเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอนะครับ เพราะจะทำให้เรารู้ความก้าวหน้าของตนเองแล้ว ยังทำให้เรามีกำลังใจอีกด้วย
2. เปิดตัวในวงการผ่าน “งานเขียน”
เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดจะหัดเขียนบทความเลยนะ ถ้าคุณลองถามผมในปีที่แล้ว ผมคงพูดเต็มปากว่าผมไม่สนอ่ะ ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ ผมชอบ coding มากกว่า แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผมตัดสินใจว่าผมอยากพัฒนาทักษะด้านการเขียน เพราะมันเป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุดในการสื่อสาร และใช้ได้ทั้งกับงาน ทั้งกับชีวิตประจำวัน
หลังผมเริ่มเขียนได้ 5 วัน บทความผมได้ขึ้นไปอยู่บน The Startup และหลังจากนั้น 23 วัน ผมได้เป็น Top Writer ใน 7 หมวด ซึ่งการอ่านคอมเมนท์จากเหล่าแฟน ๆ นี่เป็นอะไรที่ดีต่อใจมากครับ ปกติแล้วผมจะหยุดทำกิจกรรมใด ๆ หลังผ่านไป 30 วันจากวันเริ่มฝึกนะ แต่เรื่องงานเขียนนี่ขอยกเว้นไว้หน่อย ผมคงเขียนบทความไปเรื่อย ๆ แหละ
ผมเรียนวิธีเขียนอย่างไร?
เหมือนกับการฝึกสกิลอื่น ๆ แหละ ก็คือทำไปเรื่อย ๆ ครับ แต่สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยกล้าก็คือ “เขียนลงที่สาธารณะ” เพราะเราจะเรียนรู้ได้รวดเร็วเมื่องานเขียนของเรามีผู้อ่าน มีคนวิจารณ์ มีคนแสดงความเห็น ซึ่งมันเป็นการบังคับให้เราพัฒนาฝีมือไปเรื่อย ๆ อย่างสุดฝีมือ ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงในสิ่งที่มีคนวิจารณ์มา
ถ้าคุณอยากฝึกการเขียนล่ะก็ ผมแนะนำให้เริ่มด้วยการสร้างบล็อกและลงบทความอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยก็วันละครั้งแม้ว่าคุณอาจจะไม่พอใจในผลงานนั้น ๆ หรือแม้ว่ามันจะร้างก็ตาม เพราะมันไม่ใช่อะไรที่คุณต้องบังคับใครให้อ่านครับ
แปดชั่วโมงแรกทำอะไรบ้าง?
เขียนบทความที่มีความยาวอย่างน้อย 300 คำภายในเวลา 30 – 45 นาทีครับ ทำทุกวัน และเผยแพร่ลงในบล็อกที่คุณเลือกใช้
สิ่งนี้จะเปลี่ยนชีวิตคุณอย่างไร?
การเขียน ช่วยให้คุณรู้จักตัวเองอย่างแท้จริง รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร และรู้ว่าตัวเองต้องการพัฒนาไปในทิศทางไหน แถมงานเขียนชิ้นนั้นไม่ได้มีผลเพียงกับตัวคุณ แต่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านอีกหลาย ๆ คนด้วย
Credit : workventure
